“เม่นแคระ” เป็นสัตว์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ตั้งแต่หลายปีก่อน เนื่องจากนิยมนำเข้ามาเลี้ยงในประเทศไทย จำนวน
ไม่มากนัก แต่เพราะเป็นสัตว์ที่ทนต่อสภาพแวดล้อมในประเทศไทยได้ดี จึงทำให้เม่นแคระขยายพันธุ์และเจริญเติบโตกลายเป็นกระแสคนรักเม่นเมื่อหลายปีที่ผ่านมา และเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ด้วยรูปร่างลักษณะของเม่นแคระ เป็นสัตว์ตัวเล็ก มีน้ำหนักมากที่สุดไม่เกิน 1 กิโลกรัม และมีจำนวนไม่มากนักที่จะพบเม่นแคระน้ำหนักมากเท่านี้
แม้ว่าปัจจุบัน เม่นแคระจะไม่ได้อยู่ในกระแสนิยมสัตว์เลี้ยงสวยงาม แต่ก็ไม่ตกอันดับ เพราะยังคงเป็นสัตว์แปลกที่มีคนชื่นชอบและอยากมีไว้ครอบครอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเม่นแคระปรากฏตัวนอกเมืองใหญ่
หากเลี้ยงไม่มากสามารถ ฟาร์มจะใช้พื้นที่เลี้ยงไม่เกิน 6 ตารางเมตร สำหรับจำนวนเม่นแคระที่มีอยู่ไม่เกิน 25 3-30 ตัว
อย่างที่บอก แม้เม่นแคระจะไม่ใช่สัตว์แปลกใหม่แล้วในปัจจุบัน การเลี้ยงการดูแลที่ง่าย ทำให้ความนิยมในเม่นแคระกระจายออกไปจากปากต่อปาก เม่นแคะ จึงเป็นที่รู้จักและนิยมมากยิ่งขึ้น
ลักษณะทั่วไปของเม่นแคระ
เม่นแคระเป็นคนละชนิดกับเม่นไทยที่สลัดขนได้ เป็นเม่นแคระที่มีถิ่นกำเนิดจากทวีปแอฟริกา น้ำหนักโตเต็มที่ไม่เกิน 1 กิโลกรัม ไม่สลัดขน ถิ่นกำเนิดในทวีปแอฟริกาทำให้เม่นแคระ สามารถอาศัยอยู่ในสภาพอากาศในประเทศไทยได้ และเม่นแคระเป็นสัตว์ที่ปรับตัวต่อสภาพแวดล้อมได้ดี ความกังวลเรื่องการเสียชีวิตจากการเลี้ยงพบได้น้อยเป็นสัตว์ที่มีความอดทนสูง สาเหตุการเสียชีวิตที่เคยพบคือ อาการขาดน้ำ ซึ่งเม่นแคระสามารถอดน้ำได้ประมาณ 3 วัน สภาพร่างกายของเม่นแคระมีเลือดน้อย เมื่อขาดน้ำโอกาสเสียชีวิตจึงเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ยังพบด้วยว่า หากเม่นแคระถูกยุงกัดในจำนวนมาก ก็อาจจะทำให้เม่นแคระเสียชีวิตได้เช่นกัน
เม่นแคระเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มีความเป็นสัตว์ป่าสูง เป็นสัตว์เลี้ยงเดี่ยว ตามธรรมชาติจะอาศัยอยู่ในรูโดยการขุด แต่การเลี้ยงไม่จำเป็นต้องหาโพรงนอนให้ แต่ควรให้อยู่ในที่มีแสดงสว่างน้อย ปกติเม่นแคระจะหากินในเวลากลางคืน แต่เมื่ออาศัยอยู่ในประเทศไทยเม่นแคระจะปรับตัวตามสภาพแวดล้อม จึงหากินในเวลากลางวัน และนอนในเวลากลางคืน